• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 

✅เจาะสำรวจดิน📌 สิ่งจำเป็น 🛒แต่คนมองข้าม เหตุผลที่ต้องเจาะสำรวจดิน🦖

Started by Joe524, Jul 24, 2024, 12:06 AM

Previous topic - Next topic

Joe524

🛒🥇✅โดยปกติแล้วเมื่อท่านทำการก่อสร้างบ้านหรืออาคาร✨ ถ้าท่านไม่ใช่วิศวกรส่วนใหญ่ก็จะทำตามแนวทางที่ผู้รับเหมาแนะนำ🥇 แต่ผู้รับเหมาบางเจ้า📢ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย👉 (ต้องขอย้ำว่าไม่ใช่ทุกรายนะครับ🛒) ก็จะละเว้นการทดสอบบางอย่างที่เห็นว่าไม่จำเป็น⚡ ซึ่งสิ่งแรก ๆ ที่ตัดสินใจตัดออกคงหนีไม่พ้นเรื่องการเจาะสำรวจดินก็เป็นแน่📌 ในบทความนี้จะอธิบายความสำคัญของการเจาะสำรวจดินก่อนการก่อสร้าง🛒 ว่าเหตุใดจึงไม่ควรมองข้ามและมีประโยชน์อย่างไร✨



📌🦖🎯🦖ความสำคัญของการเจาะสำรวจดิน🥇⚡✨🥇🌏

1. เพื่อทราบชนิดและประเภทของดินใต้พื้นที่ก่อสร้าง🥇 เพื่อทำให้ทราบลักษณะเชิงกล🛒 เพื่อเลือกใช้ฐานรากได้ถูกประเภท🛒 หากดินมีความแข็งแรงเพียงพอ อาจเลือกใช้ฐานแผ่🦖
2. เพื่อทราบความลึกของชั้นดินแข็ง📌 ว่าอยู่ลึกลงไปเท่าไร เพื่อการคำนวณกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็ม✅ และการประเมินความยาวเสาเข็มที่เหมาะสม📌
3. การลดข้อผิดพลาดในการตอกเสาเข็ม🛒 หากเจอชั้นดินแข็งแต่ไม่หนา ที่ชั้นความลึกน้อย ๆ🌏 อาจทำให้คนตอกเสาเข็มหยุดตอก เพราะคิดว่าถึงชั้นดินแข็งแล้ว✅ แต่ที่จริงสามารถตอกต่อไปได้อีกเล็กน้อย📢
4. หากดินในบริเวณที่สำรวจมีความผันผวนมาก🥇 วิศวกรอาจสั่งให้เจาะสำรวจหลายหลุมเพื่อเปรียบเทียบ🥇 อาจต้องออกแบบฐานรากหลายแบบเพื่อก่อสร้างอาคารในบริเวณนั้น👉

🌏⚡✨✅ประเภทของการเจาะสำรวจดินที่นิยมใช้✅📢🌏⚡👉

1. การเจาะสำรวจดิน โดยใช้เครื่องเจาะแบบ Motorized Drilling Rig🥇
เครื่องเจาะที่เคลื่อนย้ายสะดวก🎯 อีกทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของทีมเจาะสำรวจดิน📌 ว่ากันด้วยเรื่องของความสะดวก✨ และประหยัดเวลาในการติดตั้ง⚡ ทำให้งานเจาะสำรวจดินเสร็จเร็วขึ้น ในที่นี้ขอกล่าวถึง การเจาะสำรวจดินแบบฉีดล้าง (Wash Boring)🎯 ก็จะเป็นในลักษณะของการใช้เครื่องสูบน้ำช่วยเจาะด้วยหัวกระทุ้ง (Chopping Bit)✨ ต่อจากก้านเจาะ📌 ปลายบนต่อกับหัวหมุนน้ำ✨ ซึ่งจะต่อไปยังเครื่องสูบน้ำขณะทำการกระทุ้งดินด้วยเครื่องกว้าน📌 จะทำการฉีดน้ำผ่านรูก้านเจาะ📢 น้ำที่ฉีดจะไหลวนขึ้นมาพร้อมกับเศษดิน ซึ่งจะมาตกในบ่อน้ำวน จนได้ความลึกที่ต้องการเก็บตัวอย่าง
การเจาะตลอดความลึกของหลุมเจาะ ในชั้นดินเหนียวอ่อน📌 หลุมเจาะจะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้วและลดลงเหลือ 3 นิ้ว ในดินแข็ง🌏 ระหว่างดำเนินการเจาะสำรวจดินก็ต้องมีการฝัง Casing🦖 ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้วลงไปจนถึงชั้นดินแข็ง✨ เพื่อป้องกันการพังทลาย✨ และใช้ Bentonite Slurry🦖 ช่วยกันดินพังในชั้นทราย👉 ทำการเจาะจนถึงชั้นดินแข็งที่มีค่า SPT-N มากกว่า 50✨

2.การใช้เครื่องเจาะแบบ Rotary Drilling✨
สามารถเจาะสำรวจดินได้กับทุกสภาพชั้นดิน🥇 เป็นลักษณะของเครื่องเจาะสำรวจดินที่มีประสิทธิภาพสูง🦖 ด้วยระบบไฮดรอลิก🎯 เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแทนแรงงานคนและแรงโน้มถ่วง📢 สามารถเจาะสำรวจดินแบบทะลุทะลวงได้ลึกเกินกว่า 40 เมตร✅ โดยใช้เครื่องยนต์ (Rotary Drilling Rig)🎯 ที่ส่งกำลังแรงปั่นหัวเจาะลงไปลึก ๆ และอยู่ในระดับความเร็วที่ต้องการ🌏 ดินจะถูกนำขึ้นมาตาม flight auger📌
วิธีนี้เครื่องยนต์จะใช้กำลังบิดหัวเจาะมาก✅ ดังนั้นจึงมักเจาะช่วงสั้น ๆ เช่น 1.5 เมตร✅ แล้วยกหัวเจาะขึ้นนำดินออก✅ แล้วเจาะต่อไปอีก 1.5 เมตร🌏 จึงสามารถตรวจลักษณะชั้นดินได้ตลอดความลึก👉 การใช้หัวเจาะร่วมกับการเจาะแบบฉีดล้าง🌏 หรือการเจาะด้วยความเร็วสูง🦖 ทำให้ตัดดินและปล่อยน้ำ📢 โดยใช้แรงดันน้ำจากปั๊มน้ำแรงดันสูง📢 เพื่อพาดินตัดขาดแล้วกลับขึ้นมาที่ผิวดิน⚡ เศษดินหรือหินจะถูกส่งขึ้นมาด้วยน้ำจากก้นหลุมเจาะด้วยหัวฉีดที่อยู่บริเวณหัวเจาะ🥇 ในดินแข็งหลุมที่เจาะจะเปิดไม่พังทะลาย📢

แต่ในลักษณะดินที่เป็น soft clay or sand📌 ต้องใช้ท่อเหล็กป้องกันการพังทลาย🛒 หรือไม่ก็ต้องใช้ drilling mud (ส่วนผสมของน้ำกับสาร Bentonite)📌 ผสมลงในน้ำที่ฉีดลงไปในหลุมเจาะ เพื่อป้องกันการพังทลายของหลุมเจาะ✅ นอกจากจะทำให้ผนังและหลุมเจาะไม่พัง ยังช่วยพาเศษวัสดุขึ้นมาด้วย📢 เป็นเหตุให้หลุมเจาะสะอาด ในกรณีพบหินแข็งต้องเป็นหัวเจาะเพชรเพื่อกัดลงในชั้นหินให้ได้พร้อมเก็บตัวอย่างแท่งหิน🎯 จึงเรียกว่า Rock Coring✅
Tags : ทดสอบดิน